จังหวัดระยองเกิดเหตุการณ์หญิงสาวคนหนึ่งได้ไปขอลงบันทึกประจำวันไว้ที่สถานีตำรวจโดยเธอระบุว่าตัวเองนั้นมีอาชีพเป็นช่างเสริมสวยเปิดร้านทำผมอยู่ โดยสิ่งที่เธอต้องการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจลงบันทึกประจำวันว่าเธอนั้นได้มีการไปหาลูกหาสาวคนหนึ่งที่คอนโดและทำการถอดผมปลอมที่ต่อออก เนื่องจากว่าลูกค้าไม่มีเงินจ่ายค่าทำผม

ซึ่งในการติดต่อกับลูกค้าที่คอนโดในครั้งนี้ลูกค้าได้มีความยินยอมหลังจากเจ้าหน้าที่ตำรวจมีการลงบันทึกประจำวันให้เป็นที่เรียบร้อยแล้วทางด้านช่างทำผมจึงได้เล่าให้เจ้าหน้าที่ตำรวจฟังว่าเมื่อวันที่   14 เดือน เดือนสิงหา ปีพ. ศ. 2563   ขณะที่เธอเปิดร้านเสริมสวยอยู่นั้นช่วงเวลาประมาณ 13:30 น. มีหญิงสาวคนหนึ่ง ได้ติดต่อเข้ามาในร้านเพื่อทำการขอต่อผมเบอร์หญิงสาวคนดังกล่าวได้มีการเลือกสเปคผมเอง

ก็จะเอาผมยาวขนาดไหนเอาผมในลักษณะอะไรเมื่อเลือกเส้นผมได้แล้วก็มีการตกลงราคากันโดยเธอแจ้งราคาลูกค้าไปว่าจะต้องจ่ายเงินอยู่ที่ประมาณ 7,700 บาทซึ่งลูกค้าก็ตกลงยินยอมที่จะทำผม   หลังจากตกลงราคากันได้เป็นที่เรียบร้อยแล้วก็ดำเนินการต่อผมกันเลยซึ่งใช้ระยะเวลาค่อนข้างนานกว่าจะตอบผมเสร็จก็เป็นประมาณเวลา 17:00 น แล้ว

หลังจากที่ต่อผมเสร็จแล้วลูกค้าสาวก็ทำทีเปิดกระเป๋าสตางค์หาเงินมาจ่ายค่าทำผมหลังจากนั้นลูกค้าก็บอกว่าเงินในกระเป๋าไม่พอจ่ายเธอขอเดินไปที่รถเพื่อไปขอเงินจากแฟนเธอมาจ่ายให้ซึ่งแม่ค้าก็ตกลงหลังจากหายไปสักประมาณ 10 นาทีลูกค้าสาวคนเดิมก็เดินกลับมาแล้วบอกว่าเงินในรถไม่พอขอเป็นการโอนเงินให้กับแม่ค้าซึ่งเธอก็แจ้งเลขที่บัญชีไปในขณะที่เธอนั้นรอยอดเงินเข้าลูกค้าสาวคนดังกล่าวก็ได้เดินไปที่รถและขึ้นรถวันนี้หายออกไปเลยซึ่งเธอพยายามโทรติดตามลูกค้าคน

ดังกล่าวให้มาชำระเงินแต่ลูกค้าสาวก็ไม่ยอมชำระเงินเธอสามารถสืบได้ว่าลูกค้าคนนี้ไปพักอยู่ที่คอนโดไหนจึงได้ติดตามไปทวงผมคืนซึ่งเธอได้มีการติดต่อเจ้าหน้าที่ของคอนโดเพื่อขอขึ้นไปพูดคุยกับเจ้าของห้องเมื่อไปถึงก็ได้มีการพูดคุยกับลูกค้าสาวคนดังกล่าวจนในที่สุดเธอก็ยินยอมที่จะให้ถอดผมที่ตอเนื่องจากว่าเธอไม่มีเงินที่จะจ่ายค่าทำผมนั่นเองซึ่งเธอกับลูกค้าตกลงกันเป็นที่เรียบร้อยแล้วว่าจะเอาผมปลอมคืนและจะไม่ติดใจเอาความจะไม่แจ้งความดำเนินคดีใดๆกับลูกค้าสาวคนดังกล่าวนั้นเอง

         อย่างไรก็ตามเมื่อข่าวของเธอนั้นดังไปทั่วไปจึงได้ฝากเดินไปยังลูกค้าสาวๆที่อยากจะสวยจะต้องมีเงินถ้าหากไม่มีเงินก็ไม่สมควรที่จะมาทำผมเพราะว่าเหล่าพ่อค้าแม่ค้าที่เปิดร้านทำผมก็ต้องมีต้นทุนในการทำความสวยให้กับลูกค้าเช่นเดียวกันซึ่งถ้าหากทำไปแล้วเสียเวลาทำผมแล้ว ทุกคนก็อยากได้เงินด้วยกันทั้งนั้นดังนั้นถ้าหากยังไม่มีเงินก็ไม่ควรมาเข้าร้านเสริมสวย

สนับสนุนโดย  เว็บหวยออนไลน์อันดับ1

                       เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นที่ประเทศ อาร์เจนตินา  ที่เมือง ซานมิเกลเดตูกูมัน ซึ่ง เหตุการณ์นั้นเกิดขึ้นในวันที่  18 เดือนตุลาคม ปี พ.ศ. 2563  เมื่อเด็กหญิงอายุเพียง 9 ขวบคนหนึ่งได้ขออนุญาติพ่่อกับแม่ เพื่อจะไปเล่นที่บ้านของเพื่อนซึ่งอยู่ไม่ไกลบ้านของตัวเองมากนัก และหนูน้อยวัย 9 ขวบก็เคยไปเล่นกับเพื่อนคนนี้อยู่บ่อยครั้งทำให้พ่อกับแม่อนุญาติ

            แต่ หลังจากที่หนูน้อยออกจากบ้านไปจนเย็นก็ไม่กลับมาบ้าน ผู้ปกครองจึงได้ออกตามหา และไปเจอร่างของหนุน้อยกลายเป็นศพ อยุ่ในพื้นที่ที่เป็นพื้นที่ว่างเปล่า ส่วนสภาพของศพนั้น เธอถูกถอดเสื้อผ้า และมีร่องรอยการถูกถูกขืน

อย่างไรก็ตามชาวบ้านที่ช่วยออกตามหาหนูน้อยวัย 9 ขวบได้ให้ข้อมูลกับทางพ่อแม่ของเด็กว่าพบเห็นเด็กหอที่จะเสียชีวิตนั้นได้เดินอยู่กับผู้ชายคนหนึ่งซึ่งชายคนดังกล่าวนั้นมีชื่อว่าโจเซ่ก็เพิ่งพ้นโทษออกจากคุกมาได้เพียงแค่ประมาณ 3 วันเท่านั้นซึ่งเมื่อชาวบ้านไปตามหาโจเซ่ก็ไม่พบเขาอยู่บ้านทำให้ชาวบ้านมั่นใจว่านายโจเซ่คือคนที่ฆ่าข่มขืนเด็กหญิงวัย 9 ขวบ

          ในขณะเดียวกันได้มีทนายความติดต่อไปที่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจว่านายโจเซ่นั้นต้องการที่จะขอมอบตัวเนื่องจากว่าเขายอมรับว่าเขาได้มีการข่มขืนและฆ่าเด็กหญิงวัย 9 ขวบจริงด้วยก่อนหน้านี้ทนายบอกว่าเขารู้สึกผิดมากตอนแรกเขาคิดจะฆ่าตัวตายแต่ก็มาคิดได้ว่าเขาควรจะยอมรับความผิดด้วยกันถูกคุมขังแทน

           อย่างไรก็ตามทางด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจได้พยายามตามหาตัวนายโจเซ่ฟเพื่อพาไปดำเนินคดีตามกฎหมายแต่ปรากฏว่ากว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจจะพบตัวนายโจเซ่ก็พบว่าเขาถูกฆ่าเสียชีวิตแล้วโดยชาวบ้านจำนวนถึง 500 กว่าคนร่วมมือกันรุมประชาทัณฑ์เนื่องจากว่าพวกเขาไม่พอใจที่นายโจเซ่ถ้าหนูน้อยวัย 9 ขวบ

           โดยตำรวจไปพบเห็นสภาพศพของนายโจเซ่นั้นมีร่องรอยการถูกทำร้ายอย่างไรอีกทั้งยังมีร่องรอยการถูกมีดฟันอยู่หลายแห่งด้วยซึ่งชาวบ้านบอกว่าพวกเขานั้นรู้สึกรับไม่ได้กับการกระทำของนายโจเซ่จึงทำให้  ชาวบ้านมารวมตัวกันแล้วออกตามหาตัวนายโจเซ่จนพบหลังจากนั้นก็พากันทำร้ายร่างกายจนในโจเซเสียชีวิตลง

            สำหรับเรื่องราวของเด็กที่ถูกทำร้ายร่างกายด้วยการฆ่าข่มขืนนั้นมีให้เห็นบ่อยในหลายประเทศซึ่งกำลังแสดงให้เห็นว่าปัจจุบันนี้มนุษย์เรานั้นเริ่มมีจิตใจที่เสื่อมโทรมลงทำได้แม้กระทั่งเด็กเล็กอย่างนั้นฆาตกรที่ทำร้ายเด็กได้แบบนี้จึงสมควรโดนลงโทษอย่างหนักเพราะเรามักจะเห็นอยู่บ่อยครั้งว่าหากถูกจับกุมได้และถูกปล่อยตัวออกมาคนร้ายเหล่านี้ก็มักจะกลับมาทำธุรกรรมแบบเดิมอีกดังนั้นพวกเขาจึงควรที่จะถูกรุมประชาทัณฑ์แบบนี้เป็นการดีที่สุดแล้ว

สนับสนุนเรื่องราวโดย  ทีเด็ดหวยฮานอยพารวย

       เมื่อวันที่ 14 เดือนมิถุนายนปีพศ2563   มีมารายงานข่าวจากสำนักข่าวแห่งหนึ่งได้มีการรายงานข่าวเกี่ยวกับเด็กหญิงวัย 12 ปีซึ่งเธอเป็นนักเรียนระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ในโรงเรียนแห่งหนึ่งจังหวัดสุพรรณบุรีเด็กหญิงวัย 12 ขวบนี้เป็นเด็กกำพร้าไม่มีพ่อไม่มีแม่อาศัยอยู่กับเครือญาติอย่างไรก็ตามจากการรายงานข่าวของสำนักข่าวช่อง GMM 25 พบว่าเด็กหญิงวัย 12 ขวบนั้น

ถูกบรรดาญาติทั้งหมดรวมแล้ว 7 คนไม่ว่าจะเป็นน้องพี่น้าอาหรือว่าลุงพากันข่มขืนเธอซึ่งหนูน้อยวัย 12 ขวบนั้นบอกว่าเธอถูกบรรดาญาติผู้ชายของเธอนั้นข่มขืนมานานกว่า 2 ปีแล้วซึ่งบรรดาญาติทั้งหมด 7 คนของเธอนั้นมีอายุต่ำสุดเพียงแค่ 10 ขวบเท่านั้นที่ลงมือข่มขืนเธอในขณะที่อายุสูงสุดนั้นคือ 52 ปีอย่างไรก็ตามเรื่องมาแดงขึ้นว่าเธอถูกเครือญาติของเธอข่มขืน

เนื่องจากว่าครั้งล่าสุดที่เธอโดนข่มขืนนั้นเธอโดนกระทำการอย่างรุนแรงจนอวัยวะภายในบอบช้ำมดลูกเกิดการอักเสบและที่สำคัญนั้นอวัยวะเพศของเธอนั้นถึงกับฉีกขาดเลยทีเดียวซึ่งหลังจากที่เธอได้รับบาดเจ็บนี้พี่สาวของเธอนั้นเห็นความผิดปกติของเธอจึงได้พาเธอนั้นไปหาหมอเพื่อทำการตรวจรักษาที่โรงพยาบาลเจ้าหน้าที่สุดนั้นคุณหมอก็ได้มีการแจ้งว่าเธอนั้น

ถูกข่มขืนทำให้พี่สาวของเธอนั้นคาดคั้นจนได้รู้ความจริงว่าเธอนั้นถูกบรรดาญาติของตนเองโดนข่มขืนมานานกว่า 2 ปีทั้งด้านคุณหมอจึงได้มีการประสานงานกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจพร้อมกับนำหลักฐานการถูกข่มขืนเพื่อขออนุมัติหมายศาลให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจนั้นดำเนินการเข้าจับกุมผู้ต้องหาทั้ง 7 คน

แต่อย่างไรก็ตามญาติพี่น้องที่มีรายชื่อว่าข่มขืนเด็กหญิงวัย 12 ขวบนั้นยังคงให้การปฏิเสธว่าไม่ได้มีการกระทำการข่มขืนเด็กหญิงวัย 12 ขวบสำหรับเด็กหญิงวัย 12 ขวบเธอเล่าว่าเธอถูกข่มขืนมานานแล้วและไม่มีใครรู้ที่สำคัญทุกคนที่ข่มขืนเธอนั้นจะบังคับให้เธอนั้นกินยาคุมเพื่อป้องกันไม่ให้เธอนั้นได้ท้อง

       สำหรับเหตุการณ์ในครั้งนี้ถือว่าเป็นเหตุการณ์ที่เลวร้ายเด็กอายุแค่เพียง 12 ขวบเท่านั้นซึ่งชีวิตของเธอนั้นลำบากอยู่แล้วเพราะต้องสูญเสียพ่อแม่แต่พอมาอยู่กับญาติพี่น้องแทนที่จะได้รับการเลี้ยงดูอย่างดีกลับทำร้ายเธอซึ่งเธอยังเป็นเด็กเล็กมากนักและไม่ใช่เพียงแค่คนเดียวเท่านั้นที่ทำร้ายญาติผู้ชายทั้งหมดที่มีอยู่ของเธอนั้นกลับพากัน ทำร้ายเธออย่างไรก็ตามเรื่องนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจยังคงต้องสืบหาพยานหลักฐานเพิ่มเติมไฟท้ายที่สุดแล้วมีทั้งหมด 7 คนนี้จริงๆหรือไม่ที่พากันข่มขืนเธอหรือมีเบื้องหลังที่แอบแฝงมากกว่านี้หรือไม่

สนับสนุนโดย  แทงหวยออนไลน์ยังไง